วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วางไม่ลง
2-3 วันมานี้ เท็นเท็นต้องการให้อุ้มบ่อยขึ้น และวางไม่ได้ด้วย ถ้าวางสักพักนึงก็จะร้อง ต้องอุ้มจึงจะเงียบ อาการนี้คงจะหมายถึงเด็กติดอุ้มแน่ อ่านจากในหนังสือก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเด็กทารกต้องการความอบอุ่น
วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ย้ายทะเบียนเท็นเท็นเข้าบ้าน
ไปทำเรื่องย้ายเท็นเท็นเข้าบ้านที่ชวนชื่นที่สำนักงานเขตบางเขนตรงวัดพระศรี และแก้ไขข้อมูลสูติบัตรด้วย เพราะว่าอายุบิดาลงไว้เป็น 31 ขอแก้ไขเป็น 41
วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ตรงเวลา
ตอนกลางวัน เท็นเท็นมักจะหลับปุ๋ย แต่พอช่วงดึก จะตื่นมาร้องหิวตรงเวลาเป๊ะ ตอน 4 ทุ่ม ตี 2 และ 6 โมงเช้า และหลังจากกินนมแล้ว ต้องคอยอุ้ม ถ้าปล่อยนอนบนเตียงไม่ดี จะร้องจ๊าก
น้ำนมของก้อยมีมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่น่าจะพอกับที่เท็นเท็นต้องการ ตอนกลางวันสามารถเลี้ยงด้วยนมแม่อย่างเดียวได้ แต่ตอนกลางคืนจะเสริมด้วยนมผง
อีบ่อยขึ้นหลังจากกินนมแม่
น้ำนมของก้อยมีมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่น่าจะพอกับที่เท็นเท็นต้องการ ตอนกลางวันสามารถเลี้ยงด้วยนมแม่อย่างเดียวได้ แต่ตอนกลางคืนจะเสริมด้วยนมผง
อีบ่อยขึ้นหลังจากกินนมแม่
วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553
นมยังน้อย
ก้อยยังมีนมน้อยอยู่ ทำให้เท็นเท็นทานไม่อิ่ม ร้องให้กวนบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืนจะมีอึด้วย
ตอนนี้เลยจะทานยา motilium ซึ่งมีผลทำให้ปรืมาณน้ำนมมากขึ้น
ตอนนี้เลยจะทานยา motilium ซึ่งมีผลทำให้ปรืมาณน้ำนมมากขึ้น
วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553
กินนมจากจุก
จากที่ฟังความคิดเห็นจากหลายคน การกินนมจากจุกไม่ได้หมายความว่าเด็กจะติดจุกจนไม่ทานนมแม่ กรณีคลอดที่รพ. จุฬาฯ เขาก็ให้กินนมจากจุก
วันนี้ก่อนนอนเลยให้เท็นเท็นกินนมจากจุก หลังจากทั้งวันไม่ได้ป้อนนมชงให้เลย ให้กินจากนมแม่ตลอด
วันนี้ก่อนนอนเลยให้เท็นเท็นกินนมจากจุก หลังจากทั้งวันไม่ได้ป้อนนมชงให้เลย ให้กินจากนมแม่ตลอด
ตรวจสุขภาพ 1 สัปดาห์
วันนี้นัดหมอเพื่อตรวจสุขภาพของเท็นเท็นและตรวจแผลผ่าตัดของก้อย
คุณหมอสุดธิดาบอกว่าเท็นเท็นหน้าเหลืองมาก จึงขอตรวจเลือดหน่อยว่าเหลืองเกินหรือเปล่า ตอนเจาะเลือดที่ปลายนิ้ว เท็นเท็นร้องจ๊ากเลย คงจะเจ็บมาก ผลตรวจได้ค่า 13 คือปกติ
น้ำหนักเท็นเท็นลดลงเหลือ 3160 กรัม (รวมผ้าอ้อมสำเร็จรูป) คุณหมอบอกว่าไม่เป็นไร ไว้ทานนมแม่ได้มากๆก็จะน้ำหนักขึ้นเอง ใน 1 เดือนหลังคลอดควรได้ 1 กิโล
ก้อยพบคุณหมอชุมพล คุณหมอบอกว่าแผลสวยดี ให้ยาลบรอยแผลเป็นมาทา
คุณหมอสุดธิดาบอกว่าเท็นเท็นหน้าเหลืองมาก จึงขอตรวจเลือดหน่อยว่าเหลืองเกินหรือเปล่า ตอนเจาะเลือดที่ปลายนิ้ว เท็นเท็นร้องจ๊ากเลย คงจะเจ็บมาก ผลตรวจได้ค่า 13 คือปกติ
น้ำหนักเท็นเท็นลดลงเหลือ 3160 กรัม (รวมผ้าอ้อมสำเร็จรูป) คุณหมอบอกว่าไม่เป็นไร ไว้ทานนมแม่ได้มากๆก็จะน้ำหนักขึ้นเอง ใน 1 เดือนหลังคลอดควรได้ 1 กิโล
ก้อยพบคุณหมอชุมพล คุณหมอบอกว่าแผลสวยดี ให้ยาลบรอยแผลเป็นมาทา
วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553
เริ่มให้ดูดนมจากอกแม่มากขึ้น แต่...
ให้ดูดนมจากอกแม่มากขึ้น เพื่อกระตุ้นต่อมน้ำนม โดยในตอนเช้าแทนที่จะให้ดูดนมชง จะเปลี่ยนเป็นนมจากอกแทน ปรากฎว่าเท็นเท็นกวนมาก ตื่นบ่อยๆ ไม่ได้หลับยาวเลย ก้อยเพลียมาก
จนค่ำทนไม่ไหวเพราะเท็นเท็นคงจะหิวมาก เลยให้นมชง แต่เปลี่ยนจากป้อนฝามาเป็นป้อนผ่านไซริ้งแทน ก็ทานไปได้เยอะ และไม่หกด้วย
ตอนค่ำๆ เท็นเท็นกวนหนักเข้าไปอีก หิว ใช้แก้วหรือไซริ้งป้อนก็ไม่กิน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน จนต้องยอมให้เท็นเท็นดื่มนมจากจุกขวดตอนตี 4 กว่า จึงได้นอนหลับยาว
จนค่ำทนไม่ไหวเพราะเท็นเท็นคงจะหิวมาก เลยให้นมชง แต่เปลี่ยนจากป้อนฝามาเป็นป้อนผ่านไซริ้งแทน ก็ทานไปได้เยอะ และไม่หกด้วย
ตอนค่ำๆ เท็นเท็นกวนหนักเข้าไปอีก หิว ใช้แก้วหรือไซริ้งป้อนก็ไม่กิน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน จนต้องยอมให้เท็นเท็นดื่มนมจากจุกขวดตอนตี 4 กว่า จึงได้นอนหลับยาว
วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553
น้ำนมเริ่มมาแล้ว
หลังจากเท็นเท็นลืมตามาได้ 5 วัน ในคืนที่ 5 (วันที่ 15 ตุลาคม) ก้อยปวดที่หัวนมและรู้สึกว่ามีน้ำนมไหลออกมา เท็นเท็นจะได้ทานนมแม่จริงๆแล้ว เย
คืนแรก
ออกจากรพ. ตอนเย็นๆ พอมาถึงก็ร้องก่อนเลย กว่าจะปลอบให้เงียบลงได้ก็นาน
คืนแรกที่เท็นเท็นอยู่บ้าน แทบจะไม่ได้นอนเลย กวนทั้งคืน และเนื่องจากนมของก้อยยังไม่มา ต้องให้ทานนมชงผ่านทางฝา ซึ่งยากและหกเละเทอะไปหมด
คืนแรกที่เท็นเท็นอยู่บ้าน แทบจะไม่ได้นอนเลย กวนทั้งคืน และเนื่องจากนมของก้อยยังไม่มา ต้องให้ทานนมชงผ่านทางฝา ซึ่งยากและหกเละเทอะไปหมด
วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ตรงเวลา
เท็นเท็นเป็นเด็กตรงเวลา พอได้เวลาทานนมทุก 3 ชม. ก็จะตื่นมาร้องโยเย พร้อมทำปากอ้อนขอทานนม เวลาทานนมของเท็นเท็นคือ 6, 9, 12, 15, 18, 21 และตี 2
วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553
คืนแรก
คืนแรกที่เท็นเท็นอยู่บ้าน ไม่ได้นอนเลย กวนทั้งคืน และเนื่องจากนมของก้อยยังไม่มา ต้องให้นมชงผ่านทางฝา ซึ่งยากและหกเละเทอะไปหมด
วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553
สอนการอาบน้ำ
ช่วงเย็นประมาณ 5 โมง พยาบาลจะสอนวิธีการอาบน้ำเด็กให้
เริ่มจากการใช้สำลีเช็ดตามขอบตาก่อน เช็ดหน้า หลังจากนั้นจะสระผม ให้สระวันละครั้งก็พอ
เมื่อสระเสร็จ จะเป็นการอาบน้ำ เช็ดตามตัว โดยเฉพาะตรงสะดือ ให้ใช้สำลีชุบอัลกอฮอร์ 75% เช็ดให้แห้ง อย่าให้เปียกเพราะจะทำให้สะดือเน่าได้
เริ่มจากการใช้สำลีเช็ดตามขอบตาก่อน เช็ดหน้า หลังจากนั้นจะสระผม ให้สระวันละครั้งก็พอ
เมื่อสระเสร็จ จะเป็นการอาบน้ำ เช็ดตามตัว โดยเฉพาะตรงสะดือ ให้ใช้สำลีชุบอัลกอฮอร์ 75% เช็ดให้แห้ง อย่าให้เปียกเพราะจะทำให้สะดือเน่าได้
หลับตลอด
ช่วงเวลาให้นมจะทุก 4 ชม. คือ 6, 10, 14, 18, 22 พยาบาลจะมาตามก้อยไปให้เท็นเท็นดูดนม เพื่อกระตุ้นให้น้ำนมมา (ตี 2 พยาบาลจะป้อนนมให้เลย) แต่เท็นเท็นจะหลับตลอด พยายามปลุกยังไงก็ไม่ยอมตื่น เวลาดูด เท็นเท็นจะดูดนมแรงมาก จนหัวนมเริ่มแตก พยาบาลเลยบอกว่าให้งดไป 2 มื้อ กลัวว่าจะแตกมากจนดูดต่อไปไม่ได้ ก้อยโทรไปหาแก้ม แก้มบอกว่าไม่เป็นไร ให้ดูดต่อไปได้ เพราะถ้าไม่ดูดกระตุ้น น้ำนมจะไม่มา
วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ได้อุ้มเท็นเท็นครั้งแรก
ตอนจะให้นมครั้งที่ 3 ประมาณ 3 ทุ่ม ผมไปกับก้อยด้วย และขอพยาบาลให้ช่วยสอนวิธีการอุ้ม โดยอุ้มท่านอนราบ พยาบาลบอกว่าผมเกร็งมาก ห่อไหล่สูง ทำให้อาจจะเมื่อยได้ถ้าอุ้มนานๆ
เท็นเท็นไม่ยอมตื่นอีก ทำให้ยังให้นมไม่ได้ จนพยาบาลที่เป็นหัวหน้ามาอุ้มยกตัวขึ้น เท็นเท็นจึงยอมตื่น
เท็นเท็นไม่ยอมตื่นอีก ทำให้ยังให้นมไม่ได้ จนพยาบาลที่เป็นหัวหน้ามาอุ้มยกตัวขึ้น เท็นเท็นจึงยอมตื่น
เท็นเท็นหลับตอนให้นม
พยาบาลพาก้อยไปให้นมเพื่อกระตุ้นให้ต่อมน้ำนมทำงาน และให้เท็นเท็นคุ้นเคยกับการกินนมจากแม่ แต่เท็นเท็นไม่ยอมเล่นด้วย จะนอนท่าเดียว พยายามปลุกยังไงก็ไม่ตื่น
พาคุณแม่ไปให้นมลูก
หลังจากผ่าตัด ก้อยจะลุกไปไหนไม่ได้ ต้องนอน งดน้ำและอาหาร ให้น้ำเกลืออย่างเดียว
วันนี้ตอนเช้าประมาณ 6 โมงกว่าๆ น้ำเกลือหมด พยาบาลถอดเอาสายน้ำเกลือออก และเริ่มให้จิบน้ำเปล่า ช่วง 9 โมง ก็พาก้อยไปกระตุ้นให้นมลูกที่ห้องเด็ก
วันนี้ตอนเช้าประมาณ 6 โมงกว่าๆ น้ำเกลือหมด พยาบาลถอดเอาสายน้ำเกลือออก และเริ่มให้จิบน้ำเปล่า ช่วง 9 โมง ก็พาก้อยไปกระตุ้นให้นมลูกที่ห้องเด็ก
วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553
เท็นเท็นคลอดแล้ว
ตื่นตี 3 ออกจากบ้านตอนตี 4:30 มาถึงรพ. ตอนตี 4:40
ไปที่ชั้น 3 ห้องรอคลอด พยาบาลพาก้อยไปเปลี่ยนชุดและสวนอุจาระออก
6:37 พยาบาลเข็นเตียงออกจากห้องรอคลอดไปที่ห้องผ่าตัด
7:13 คุณหมอชุมพลเดินทางมาถึง เริ่ม block หลัง
7:18 คุณหมอเข้าห้องผ่าตัด
7:37 เหมือนกับได้ยินเสียงเด็กร้องดังในห้องผ่าตัด
7:39 คุณหมอดูแลเด็กออกมา บอกว่าคลอดเรียบร้อยดี ทั้งแม่และลูก คลอดเวลา 7:34 น้ำหนักตัว 3.35 กิโล
ไปที่ชั้น 3 ห้องรอคลอด พยาบาลพาก้อยไปเปลี่ยนชุดและสวนอุจาระออก
6:37 พยาบาลเข็นเตียงออกจากห้องรอคลอดไปที่ห้องผ่าตัด
7:13 คุณหมอชุมพลเดินทางมาถึง เริ่ม block หลัง
7:18 คุณหมอเข้าห้องผ่าตัด
7:37 เหมือนกับได้ยินเสียงเด็กร้องดังในห้องผ่าตัด
7:39 คุณหมอดูแลเด็กออกมา บอกว่าคลอดเรียบร้อยดี ทั้งแม่และลูก คลอดเวลา 7:34 น้ำหนักตัว 3.35 กิโล
วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553
นัดวันผ่าคลอด
ไปพบคุณหมอตามนัด คุณหมอวัดการเต้นของหัวใจ ปกติ
ก้อยยังมีอาการหวัดคัดจมูก และมีเสมหะ คุณหมอตรวจดูที่คอแล้วบอกว่ามีแดงๆอักเสบ จึงให้ทานยา Amoxi เพิ่ม แต่บอกว่าไม่มีผลกับการคลอด
กำหนดวันผ่าคลอดเป็นวันที่ 10 ตค. ตอนเช้า 7 โมง โดยต้องไปถึงรพ.ประมาณตี 4
ก้อยยังมีอาการหวัดคัดจมูก และมีเสมหะ คุณหมอตรวจดูที่คอแล้วบอกว่ามีแดงๆอักเสบ จึงให้ทานยา Amoxi เพิ่ม แต่บอกว่าไม่มีผลกับการคลอด
กำหนดวันผ่าคลอดเป็นวันที่ 10 ตค. ตอนเช้า 7 โมง โดยต้องไปถึงรพ.ประมาณตี 4
วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ดิ้นแรงมักๆ
หลังทานอาหารเย็นเสร็จ เท็นเท็นดิ้นแรงมาก เหมือนกับควงสว่าน กลับตัวใต้น้ำ จนก้อยปวดบริเวณขา น้ำตาซึม
วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553
เป็นหวัด
ก้อยเป็นหวัด น้ำมูกไหล โทรไปหาคุณหมอตั้งแต่เช้า แต่คุณหมอไม่ว่าง กว่าจะได้คุยก็เที่ยงกว่า คุณหมอให้ทานยา Actifet และ Flemex (ลดเสมหะ)
ปวดท้องตอนดึก
หลังจากไม่ได้ปวดท้องมา 2 วัน ตอนดึกวันที่ 1 ก้อยมีอาการปวดท้อง แต่ตอนกลางวันก็ไม่ปวด
เมื่อวานเท็นเท็นไม่ค่อยดิ้น แต่วันนี้เท็นเท็นกลับมาดิ้นบ่อยขึ้นเหมือนเดิม
เมื่อวานเท็นเท็นไม่ค่อยดิ้น แต่วันนี้เท็นเท็นกลับมาดิ้นบ่อยขึ้นเหมือนเดิม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)