วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

จับซาไท้เป้า ครั้งที่ 1

วันนี้ก้อยตื่นแต่เช้า เพื่อมาต้มจับซาไท้เป้ามาดื่ม
วิธีการต้ม ให้เอาตัวยาใส่ลงในหม้อดิน เติมน้ำ 3 ถ้วย ต้มจนเหลือ 1 ถ้วยแล้วดื่มก่อนทานอาหารเช้า 1 ชม.
ตอนเย็นให้เติมน้ำลงไปอีก 2 ถ้วยแล้วต้มจนเหลือค่อนถ้วยทานก่อนอาหารมื้อเย็น
รสชาติของน้ำจับซาไท้เป้า ก้อยบอกว่า "ขมมาก"

วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ท้องใหญ่ขึ้นเยอะ

อายุครรภ์ได้ 19 สัปดาห์แล้ว ท้องของก้อยใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม น้ำหนัก 55.6 กิโลกรัม
รู้สึกเหมือนกับลูกดิ้นบ่อยแต่ถ้าใช้มือจับที่ท้องยังรู้สึกได้ไม่ชัด (บางครั้งก็รับรู้ได้ บางครั้งก็ยังไม่ได้)

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลูกดิ้น

วันนี้หลังทานเสร็จ ก้อยบอกว่ารู้สึกว่าลูกดิ้น และเตะหน้าท้อง รู้สึกได้ค่อนข้างชัดเจน

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เมื่อคืนเป็นตะคริว

เมื่อคืน ก้อยเป็นตะคริวที่ขา ประมาณ 1 นาทีก็หาย
อาการปวดแขนจากการฉีดวัคซีนหายแล้ว
อายุครรภ์ 18 สัปดาห์ น้ำหนักชั่งตอนเช้า 55.4 กิโลกรัม ยังไม่รู้สึกว่าลูกดิ้น

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ยังเจ็บแขนข้างที่ฉีดวัคซีน

ก้อยยังมีอาการเจ็บแขนจากการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักอยู่ ยกแขนไม่ค่อยขึ้น
วันนี้ลูกไม่ดิ้นเหมือนเมื่อวาน อาจจะเพราะเมื่อวานก้อยนอนหงายด้วย ทำให้ไปกดทับ ลูกเลยดิ้นจนรู้สึกได้ แต่วันนี้ก้อยนอนคะแคง

วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ก้อยโดนถีบ

วันนี้ก้อยรู้สึกตุบๆที่หน้าท้อง สงสัยลูกจะแตะทักทายแม่

เจาะน้ำคร่ำ

ตอนเช้าพบคุณหมอชุมพลที่รพ.วิภาวดี เพื่อตรวจครรภ์ คุณหมอใช้เครื่องวัดเสียงหัวใจเด็ก ได้ 150 ครั้งต่อนาที
หลังจากนั้นฉีดยากันบาดทะยักเข็มที่สอง ครั้งนี้ก้อยบอกว่าเจ็บมากๆ ไม่เหมือนครั้งก่อนที่พยาบาลฉีดแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย
ทานข้าวเที่ยงที่รพ. แล้วรอคุณหมออาภรณ์ภิรมย์ตอนบ่าย 2 เพือตรวจน้ำคร่ำ
ก่อนตรวจคุณหมอจะอธิบายประโยชน์ที่ได้ ข้อดีข้อเสีย เพื่อให้ตัดสินใจก่อนว่าจะตรวจหรือเปล่า อธิบายประมาณครึ่งชั่วโมง การตรวจใช้เวลา 15 นาที
ตอนแรกคุณหมอจะเอาเบทาดีนทาทั่วหน้าท้องเพื่อฆ่าเชื้อโรค ทาเจลเและอัลตราซาวนด์เด็กก่อนที่จะเจาะ จะได้ไม่โดนตัวเด็ก คุณหมอบอกว่าเห็นอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์ดี แต่ยังมองไม่เห็นเพศนะ
ลูกนอนพึ่งพุงเอามือก่ายหน้าผาก ไม่รู้กลุ้มใจเรื่องอะไร จากนั้นคุณหมอจะเอาผ้ามาคลุมท้อง เอาหลอดพลาสติกมากดที่หน้าท้องเพื่อมาร์คตำแหน่งที่จะเจาะ จากนั้นก้อยก็บอกกับคุณหมอว่าจะขอหลับตานะ เพราะเสียว จากนั้นคุณหมอก็เริ่มเจาะ เจ็บเหมือนฉีดยา ช่วงดูดน้ำคร่ำจะรู้สึกเสียวหน้าท้อง ดูดไป 2 หลอด รวม 20 ซีซี เป็นอันเสร็จ ใช้เวลาเจาะและดูดประมาณ 1 นาที
การตรวจใช้เวลา 2-3 อาทิตย์ คุณหมอชุมพลนัดครั้งหน้ามาตรวจก็จะทราบผลพอดี

วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ปวดที่ข้อเท้า

เมื่อคืนก่อนนอน ก้อยบอกว่าปวดที่ข้อเท้า ต้องเอา counterpain มาทา
ตื่นมาตอนเข้า ยังปวดอีกนิดหน่อย สอบถามไปมา อาจจะเกิดจากเมื่อวานมีการบริหารข้อเท้าตามที่อ่านในหนังสือ แล้วอาจจะทำมากไปหน่อยเลยมีอาการปวด

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

อบรม

อบรมเกี่ยวกับการดูแลครรภ์ที่รพ.วิภาวดี
ตอนนี้น้ำหนักของก้อย 54.3 กิโล เห็นท้องโตค่อนข้างชัดเจน แม้ในตอนใส่เสื้อ

วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เลื่อนนัดตรวจที่รพ.วิภาวดี

พยาบาลที่รพ.วิภาวดี โทรมาขอเลื่อนวันที่จะเจาะน้ำคร่ำ เพราะว่าคุณหมอที่จะเจาะต้องไปเมืองนอก เลยจะเลื่อนเข้ามาเป็นวันที่ 18 พค. แทน จะพบคุณหมอชุมพลเพื่อตรวจก่อนว่าสามารถเจาะได้มั้ย ถ้าได้ก็เจาะวันนั้นเลย

ถ่ายเป็นน้ำบ่อย

2-3 วันมานี้ ก้อยมักจะถ่ายเป็นน้ำ(คล้ายท้องเสีย)บ่อยๆ และบางครั้งก็มีอาการไม่อยากทานอาหาร

วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เป็นตะคริว

เมื่อคืนก้อยเป็นตะคริวอีก คาดว่าน่าจะเกิดจากไปเดินช้อปปิ้งกับพี่สาวที่ Central ลาดพร้าวนานไปหน่อย