วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผ้าอ้อมสำเร็จรูปมีปัญหา

2-3 วันมานี้ ช่วงตอนกลางคืน เท็นเท็นจะดิ้นดุกดิกและร้องมากกว่าปกติ พยายามหาสาเหตุ ก็หาไม่เจอ เพิ่งมาสังเกตว่าเสื้อด้านหลังของเท็นเท็นเปียกบ่อยๆ ตอนแรกคิดว่าเหงื่อ แต่เมื่อเกิดบ่อยเลยคิดว่าไม่ใช่ น่าจะเป็นฉี่ของเท็นเท็นเล็ดออกมาจากผ้าอ้อมมากกว่า ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ใช้คือ Goon เลยต้องเปลี่ยนมาใช้ MamyPoko เหมือนเดิม

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

6.3 กิโล

วันนี้อายุ 2 เดือน 2 สัปดาห์ ชั่งน้ำหนักเท็นเท็นได้ 6.3 กิโล

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ไม่ยอมทานนมชง

ช่วงนี้เท็นเท็นจะกินแต่นมจากแม่เท่านั้น ไม่ค่อยยอมทานนมชงเลย หรือทานก็น้อยมาก ทานนิดเดียวก็เบนหน้าหนีหรือไม่ก็หลับซะงั้น

ลักยิ้ม

วันนี้สังเกตดู เท็นเท็นจะมีลักยิ้มด้วย :)

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ฉีดวัคซีนเดือนที่ 2

เท็นเท็นอายุครบ 2 เดือน ไปฉีดวัคซีนที่รพ. สินแพทย์ (ไม่ไปวิภาวดีแล้วเพราะไกล) และหยอดยาป้องกันไวรัสโรต้าด้วย ครั้งนี้เท็นเท็นไม่ร้องมากเหมือนครั้งแรก และคุณหมอช่วยดูแผลที่หัวและหู บอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ปล่อยไว้ก็หายเอง แต่ถ้าจะให้หายเร็วคุณหมอให้ยามาทาเช้าเย็น

วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ร้องไห้น้อยลง

เท็นเท็นร้องไห้น้อยลง ตอนกลางวันจะเล่นกับคุณแม่มากขึ้น สะดือที่เคยจุ่นหายไปแล้ว ส่วนตอนกลางคืนก็ไม่ค่อยร้องไห้จะกินนม แต่จะดิ้นดุกดิกและเอามือปัดหน้าไปมาบ่อยๆ (ไม่รู้ว่าทำไม)

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตาสู้แสงแดดยามเช้าได้แล้ว

อุ้มเท็นเท็นไปเดินเล่นตอนเช้า ตาสามารถสู้แสงแดดได้แล้ว

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ติดแม่มากๆ

ช่วงนี้เท็นเท็นติดแม่มากๆ พ่อจะอุ้มก็ไม่ค่อยยอม ร้องตลอด

วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ไม่ได้เจอเท็นเท็นนานที่สุด

วันนี้ไปสัมมนาบริษัทที่บางปู ออกจากบ้าน 7 โมงเช้า กลับมาถึงบ้าน 1 ทุ่ม รวมเวลาได้เจอหน้าเท็นเท็นครึ่งวัย
พอกลับมาก็อุ้มเท็นเท็นที่รออยู่ ไม่ยอมนอนไม่วัน จนป๊ากลับมาอุ่ม

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ไม่อึมา 1 วัน

ช่วงนี้เท็นเท็นติดแม่มาก เนื่องจากแม่อุ้มตลอด ป๊าต้องพยายามมอุ้มอยู่นาน เท็นเท็นจึงจะยอมให้อุ้ม และวันนี้เท็นเท็นอึระเบิดเต็มขาหมดเลย เนื่องจากไม่ได้อึมา 1 วันเต็มๆ

วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เปลี่ยนนมชงใหม่

ลองเปลี่ยนนมชงใหม่ จากเดิมยี่ห้อ Enfalac เป็น Dumex เพราะอ่านเจอใน net ว่านม Enfa โปรตีนสูงมาก อาจจะทำให้เด็กอ้วนง่าย และนอนบิด+ร้องเอี๊ยดอ๊าดบ่อย
เท็นเท็นไม่ค่อยนอนกลางวันบ่อยเหมือนเมื่อก่อน กินนมเก่งขึ้น ก้อยต้องอุ้มให้นมแทบจะตลอด

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

overfeeding

อ่านจากกระทู้ในคลินิกนมแม่ บอกว่าอาการนอนบิด ร้องเอี๊ยดอ๊าด แหวะนม คืออาการของ overfeeding และถ้าทานนมผงด้วย จะทำให้เป็นโรคอ้วนได้
เลยพยายามจะลดนมผงลง แต่ไม่สำเร็จมากนัก เนื่องจากช่วงนี้เท็นเท็นหิวบ่อยมากๆ กินนมได้ไม่เกิน 2 ชม. ก็ทำท่าหิวจะกินอีก ไม่ป้อนก็ไม่ได้ จะร้องจนหน้าแดง

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

น้ำหอมปรับอากาศกลินยูคาลิปตัส

ซื้อน้ำหอมปรับอากาศกลิ่นยูคาลิปตัสมาฉีดในห้องนอน หวังว่าจะช่วยให้เท็นเท็นนอนหายใจสะดวกขึ้น และดิ้นน้อยลง

กินนมหลับยาวมาก

ปกติช่วงเย็นๆประมาณ 6 โมง เท็นเท็นจะร้องโยเย เมื่อวานให้เท็นเท็นกินนมชง 3 Oz ตอน 5 โมงเย็น แล้วอุ้มสักประมาณ 1 ชม. จึงค่อยวางบนเตียง ปรากฏว่าเท็นเท็นหลับยาวเลย ไปจน 4 ทุ่มกว่าจึงตื่น

วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คุณแม่นักปั๊ม(มือใหม่)

ซื้อเครื่องปั๊มนมของ Camera แบบตันโยก เพื่อมาใช้ปั๊มนมเก็บไว้ตอนที่น้ำนมไหลแต่ว่าเท็นเท็นยังหลับ ทดสอบครั้งแรก ปั๊มได้ 2 Oz กว่าๆ เก็บไว้ไม่นานก็ให้เท็นเท็นกิน เพราะว่าร้อง

วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วางไม่ได้อีกแล้ว

ตอนกลางวันคุณแม่ต้องอุ้มเท็นเท็นตลอด วางไม่ได้เลย พอวางสักพักแล้วเท็นเท็นรู้ตัว ก็จะร้องจ๊าก ให้กินนมก็แหวะ
ส่วนตอนกลางคืน ก็ดิ้นดุกดิก ดิ้นแรงมากด้วย เคยดิ้นไปไกลจากที่นอนเดิมมาก เลยต้องเอาผ้าห่มมาวางขวางเอาไว้ไม่ได้ดิ้นไปไกลมาก เดี๋ยวตกเตียง
น้ำนมคุณแม่มีมากขึ้น ให้เท็นเท็นดูดได้เกือบตลอด จนตอนนี้เท็นเท็นดูอวบอ้วนไปทุกส่วนเลย

วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แหวะแทบจะทุกมื้อ

เท็นเท็นจะแหวะนมแทบจะทุกมื้อ พยายามจะให้เรอหลังกินนมก็ไม่ค่อยสำเร็จ จะร้องให้จนต้องเลิกให้เรอ
วิธีที่พอช่วยได้บ้างคือให้อุ้มให้ตัวไม่นอนราบกับพื้นสักพักนึงก่อน จึงค่อยวางบนเตียง
เท็นเท็นมักจะร้องกวนตอนช่วง 6 โมงเย็น และตอนเช้าๆมักจะดิ้นดุกดิกไปมา เหมือนกับนอนไม่ค่อยหลับ ต้องเอามือจับเอาไว้หรืออุ้ม

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับ

หาเท็นเท็นไปฉีดวัคซีนวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีที่รพ.วิภาวดี พบคุณหมอยุพาพิน (รอนานมาก)
ชั่งน้ำหนักได้ 4.6 กิโล วัดความสูงได้ 55 ซม. (เพิ่มมา 3) อยู่ในเกณฑ์ดี
เท็นเท็นนิ่งมาก นั่งรถไปกลับไม่ร้องเลย หลับตลอด มีร้องตอนหลังคุณหมอตรวจเสร็จ เพราะหิว และตอนฉีดยา
เท่านั้น แต่ก็ร้องไม่นานแล้วก็หลับ

วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ขึ้นมานอนข้างบน

เท็นเท็นอายุครบ 1 เดือน เลยย้ายขึ้นมานอนที่ห้องนอนข้างบนเป็นครั้งแรก โดยนอนเตียงกับคุณพ่อและคุณแม่

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แปลกๆ

เมื่อวานหลังจากเท็นเท็นทานนมตอนบ่ายเสร็จ จะหลับสนิทมากๆ ตอนบ่าย 3 จะพาไปอาบน้ำ ก็ไม่ยอมตื่น เลยอาบทั้งๆที่ยังง่วง ไม่ร้องงอแง อาบเสร็จก็ไม่ร้อง นอนต่อจนถึง 6 โมง จนพ่อกับแม่สงสัยว่าหนูเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมนอนมากจัง
แต่พอช่วงทุ่มกว่าๆ เท็นเท็นก็กลับมาปกติ ร้องจะกินนม และกินแต่ครั้งนานมากๆ กินเสร็จก็แหวะนมตลอด ไม่ยอม จนเที่ยงคืนได้นมชงไป 2 Oz จึงยอมนอนหลับปุ๋ย

วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

อึกลางคืนน้อยลง

เท็นเท็นอึกลางคืนน้อยลง เดิมตั้งแต่ช่วง 6 โมงเย็นถึงเช้า จะใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เวลาเปลี่ยนทุกครั้งก็จะมีอึตลอด แต่ 2 วันที่ผ่านมา ก่อนเที่ยงคืนจะไม่ค่อยอึแล้ว
เวลานอนก็กวน(ตื่น)น้อยลง

วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

น้ำหนัก 4 กิโล

ก่อนหน้าน้ำหนักไม่ค่อยเพิ่ม จึงให้นมชงหลังดูดนมแม่ ชั่งน้ำหนักเท็นเท็นวันนี้ได้ 4 กิโลกรัม (รวมผ้าอ้อมและเสื้อ)

วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กิจวัตรประจำวัน

ตอนเช้าถูกปลุกโดยนาฬิกาเท็นเท็นตอนตี 5 กว่าๆ อาบน้ำ กินข้าว แต่งตัวไปทำงาน
ออกจากที่ทำงานประมาณบ่าย 3 (ขอออกเร็วหน่อยในช่วงนี้) ถึงบ้าน 4 โมงกว่าๆ มาถึงก็เช็ดขี้และเยี่ยวที่เท็นเท็นมักจะถ่ายไว้ตรงเวลา
อุ้มเท็นเท็นเดินเล่นในบ้าน ถึง 1 ทุ่มก็ทานข้าว อาบน้ำนอน
4 ทุ่มกว่าและตี 2 เท็นเท็นจะตื่นมากินนม

มดลูกบีบ

ก้อยรู้สึกเจ็บเวลาเท็นเท็นดูดนม เพราะดูดแรงมาก
น้ำคาวปลาที่เคยออกน้อยลง วันนี้ออกมากขึ้นด้วย

วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทานยาเพิ่มน้ำนม

น้ำนมก้อยยังมาไม่มาก ไม่พอกับที่เท็นเท็นจะกิน ส่วนใหญ่ก้อยจะมีน้ำนมช่วงดึกๆ เคยลองปั๊มออกมาไม่มาก แค่ 1 Oz ก้อยเลยทานยาเพิ่มน้ำนมอีกตัวนึงคือยาประสระน้ำนม เป็นยาแผนโบราณ ทานครั้งละ 5 เม็ดเช้าเย็น

วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วางไม่ลง

2-3 วันมานี้ เท็นเท็นต้องการให้อุ้มบ่อยขึ้น และวางไม่ได้ด้วย ถ้าวางสักพักนึงก็จะร้อง ต้องอุ้มจึงจะเงียบ อาการนี้คงจะหมายถึงเด็กติดอุ้มแน่ อ่านจากในหนังสือก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเด็กทารกต้องการความอบอุ่น

วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ย้ายทะเบียนเท็นเท็นเข้าบ้าน

ไปทำเรื่องย้ายเท็นเท็นเข้าบ้านที่ชวนชื่นที่สำนักงานเขตบางเขนตรงวัดพระศรี และแก้ไขข้อมูลสูติบัตรด้วย เพราะว่าอายุบิดาลงไว้เป็น 31 ขอแก้ไขเป็น 41

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ตรงเวลา

ตอนกลางวัน เท็นเท็นมักจะหลับปุ๋ย แต่พอช่วงดึก จะตื่นมาร้องหิวตรงเวลาเป๊ะ ตอน 4 ทุ่ม ตี 2 และ 6 โมงเช้า และหลังจากกินนมแล้ว ต้องคอยอุ้ม ถ้าปล่อยนอนบนเตียงไม่ดี จะร้องจ๊าก
น้ำนมของก้อยมีมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่น่าจะพอกับที่เท็นเท็นต้องการ ตอนกลางวันสามารถเลี้ยงด้วยนมแม่อย่างเดียวได้ แต่ตอนกลางคืนจะเสริมด้วยนมผง
อีบ่อยขึ้นหลังจากกินนมแม่

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

นมยังน้อย

ก้อยยังมีนมน้อยอยู่ ทำให้เท็นเท็นทานไม่อิ่ม ร้องให้กวนบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืนจะมีอึด้วย
ตอนนี้เลยจะทานยา motilium ซึ่งมีผลทำให้ปรืมาณน้ำนมมากขึ้น

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

หาพี่เลี้ยงมาช่วย

หาพี่เลี้ยงชื่อนกมาช่วยทำความสะอาดบ้านและดูแลเท็นเท็นในบางช่วงเวลา

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

กินนมจากจุก

จากที่ฟังความคิดเห็นจากหลายคน การกินนมจากจุกไม่ได้หมายความว่าเด็กจะติดจุกจนไม่ทานนมแม่ กรณีคลอดที่รพ. จุฬาฯ เขาก็ให้กินนมจากจุก
วันนี้ก่อนนอนเลยให้เท็นเท็นกินนมจากจุก หลังจากทั้งวันไม่ได้ป้อนนมชงให้เลย ให้กินจากนมแม่ตลอด

ตรวจสุขภาพ 1 สัปดาห์

วันนี้นัดหมอเพื่อตรวจสุขภาพของเท็นเท็นและตรวจแผลผ่าตัดของก้อย
คุณหมอสุดธิดาบอกว่าเท็นเท็นหน้าเหลืองมาก จึงขอตรวจเลือดหน่อยว่าเหลืองเกินหรือเปล่า ตอนเจาะเลือดที่ปลายนิ้ว เท็นเท็นร้องจ๊ากเลย คงจะเจ็บมาก ผลตรวจได้ค่า 13 คือปกติ
น้ำหนักเท็นเท็นลดลงเหลือ 3160 กรัม (รวมผ้าอ้อมสำเร็จรูป) คุณหมอบอกว่าไม่เป็นไร ไว้ทานนมแม่ได้มากๆก็จะน้ำหนักขึ้นเอง ใน 1 เดือนหลังคลอดควรได้ 1 กิโล
ก้อยพบคุณหมอชุมพล คุณหมอบอกว่าแผลสวยดี ให้ยาลบรอยแผลเป็นมาทา

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เริ่มให้ดูดนมจากอกแม่มากขึ้น แต่...

ให้ดูดนมจากอกแม่มากขึ้น เพื่อกระตุ้นต่อมน้ำนม โดยในตอนเช้าแทนที่จะให้ดูดนมชง จะเปลี่ยนเป็นนมจากอกแทน ปรากฎว่าเท็นเท็นกวนมาก ตื่นบ่อยๆ ไม่ได้หลับยาวเลย ก้อยเพลียมาก
จนค่ำทนไม่ไหวเพราะเท็นเท็นคงจะหิวมาก เลยให้นมชง แต่เปลี่ยนจากป้อนฝามาเป็นป้อนผ่านไซริ้งแทน ก็ทานไปได้เยอะ และไม่หกด้วย
ตอนค่ำๆ เท็นเท็นกวนหนักเข้าไปอีก หิว ใช้แก้วหรือไซริ้งป้อนก็ไม่กิน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน จนต้องยอมให้เท็นเท็นดื่มนมจากจุกขวดตอนตี 4 กว่า จึงได้นอนหลับยาว

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

น้ำนมเริ่มมาแล้ว

หลังจากเท็นเท็นลืมตามาได้ 5 วัน ในคืนที่ 5 (วันที่ 15 ตุลาคม) ก้อยปวดที่หัวนมและรู้สึกว่ามีน้ำนมไหลออกมา เท็นเท็นจะได้ทานนมแม่จริงๆแล้ว เย

คืนแรก

ออกจากรพ. ตอนเย็นๆ พอมาถึงก็ร้องก่อนเลย กว่าจะปลอบให้เงียบลงได้ก็นาน
คืนแรกที่เท็นเท็นอยู่บ้าน แทบจะไม่ได้นอนเลย กวนทั้งคืน และเนื่องจากนมของก้อยยังไม่มา ต้องให้ทานนมชงผ่านทางฝา ซึ่งยากและหกเละเทอะไปหมด

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ตรงเวลา

เท็นเท็นเป็นเด็กตรงเวลา พอได้เวลาทานนมทุก 3 ชม. ก็จะตื่นมาร้องโยเย พร้อมทำปากอ้อนขอทานนม เวลาทานนมของเท็นเท็นคือ 6, 9, 12, 15, 18, 21 และตี 2

วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คืนแรก

คืนแรกที่เท็นเท็นอยู่บ้าน ไม่ได้นอนเลย กวนทั้งคืน และเนื่องจากนมของก้อยยังไม่มา ต้องให้นมชงผ่านทางฝา ซึ่งยากและหกเละเทอะไปหมด

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สอนการอาบน้ำ

ช่วงเย็นประมาณ 5 โมง พยาบาลจะสอนวิธีการอาบน้ำเด็กให้
เริ่มจากการใช้สำลีเช็ดตามขอบตาก่อน เช็ดหน้า หลังจากนั้นจะสระผม ให้สระวันละครั้งก็พอ
เมื่อสระเสร็จ จะเป็นการอาบน้ำ เช็ดตามตัว โดยเฉพาะตรงสะดือ ให้ใช้สำลีชุบอัลกอฮอร์ 75% เช็ดให้แห้ง อย่าให้เปียกเพราะจะทำให้สะดือเน่าได้

หลับตลอด

ช่วงเวลาให้นมจะทุก 4 ชม. คือ 6, 10, 14, 18, 22 พยาบาลจะมาตามก้อยไปให้เท็นเท็นดูดนม เพื่อกระตุ้นให้น้ำนมมา (ตี 2 พยาบาลจะป้อนนมให้เลย) แต่เท็นเท็นจะหลับตลอด พยายามปลุกยังไงก็ไม่ยอมตื่น เวลาดูด เท็นเท็นจะดูดนมแรงมาก จนหัวนมเริ่มแตก พยาบาลเลยบอกว่าให้งดไป 2 มื้อ กลัวว่าจะแตกมากจนดูดต่อไปไม่ได้ ก้อยโทรไปหาแก้ม แก้มบอกว่าไม่เป็นไร ให้ดูดต่อไปได้ เพราะถ้าไม่ดูดกระตุ้น น้ำนมจะไม่มา

วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ได้อุ้มเท็นเท็นครั้งแรก

ตอนจะให้นมครั้งที่ 3 ประมาณ 3 ทุ่ม ผมไปกับก้อยด้วย และขอพยาบาลให้ช่วยสอนวิธีการอุ้ม โดยอุ้มท่านอนราบ พยาบาลบอกว่าผมเกร็งมาก ห่อไหล่สูง ทำให้อาจจะเมื่อยได้ถ้าอุ้มนานๆ
เท็นเท็นไม่ยอมตื่นอีก ทำให้ยังให้นมไม่ได้ จนพยาบาลที่เป็นหัวหน้ามาอุ้มยกตัวขึ้น เท็นเท็นจึงยอมตื่น

เท็นเท็นหลับตอนให้นม

พยาบาลพาก้อยไปให้นมเพื่อกระตุ้นให้ต่อมน้ำนมทำงาน และให้เท็นเท็นคุ้นเคยกับการกินนมจากแม่ แต่เท็นเท็นไม่ยอมเล่นด้วย จะนอนท่าเดียว พยายามปลุกยังไงก็ไม่ตื่น

พาคุณแม่ไปให้นมลูก

หลังจากผ่าตัด ก้อยจะลุกไปไหนไม่ได้ ต้องนอน งดน้ำและอาหาร ให้น้ำเกลืออย่างเดียว
วันนี้ตอนเช้าประมาณ 6 โมงกว่าๆ น้ำเกลือหมด พยาบาลถอดเอาสายน้ำเกลือออก และเริ่มให้จิบน้ำเปล่า ช่วง 9 โมง ก็พาก้อยไปกระตุ้นให้นมลูกที่ห้องเด็ก

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ทานนมครั้งแรก

ตอนเที่ยงนิดๆ พยาบาลก็เอานมใส่ขวดมาป้อนให้ เท็นเท็นเก่งกินจนหมดเลย

พาไปอาบน้ำ

9:40 พยาบาลพาไปเท็นเท็นอาบน้ำ เวลาโดนน้ำร้องไห้ใหญ่เลย
พออาบเสร็จ ทำตาปรือๆ ไม่ยอมนอน

เท็นเท็นคลอดแล้ว

ตื่นตี 3 ออกจากบ้านตอนตี 4:30 มาถึงรพ. ตอนตี 4:40
ไปที่ชั้น 3 ห้องรอคลอด พยาบาลพาก้อยไปเปลี่ยนชุดและสวนอุจาระออก
6:37 พยาบาลเข็นเตียงออกจากห้องรอคลอดไปที่ห้องผ่าตัด
7:13 คุณหมอชุมพลเดินทางมาถึง เริ่ม block หลัง
7:18 คุณหมอเข้าห้องผ่าตัด
7:37 เหมือนกับได้ยินเสียงเด็กร้องดังในห้องผ่าตัด
7:39 คุณหมอดูแลเด็กออกมา บอกว่าคลอดเรียบร้อยดี ทั้งแม่และลูก คลอดเวลา 7:34 น้ำหนักตัว 3.35 กิโล

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

นัดวันผ่าคลอด

ไปพบคุณหมอตามนัด คุณหมอวัดการเต้นของหัวใจ ปกติ
ก้อยยังมีอาการหวัดคัดจมูก และมีเสมหะ คุณหมอตรวจดูที่คอแล้วบอกว่ามีแดงๆอักเสบ จึงให้ทานยา Amoxi เพิ่ม แต่บอกว่าไม่มีผลกับการคลอด
กำหนดวันผ่าคลอดเป็นวันที่ 10 ตค. ตอนเช้า 7 โมง โดยต้องไปถึงรพ.ประมาณตี 4

วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ปวดท้องตอนกลางคืนตลอด

ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ก้อยจะปวดท้องตอนกลางคืนทุกคืน แต่พอกลางวันก็ปกติ

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ดิ้นแรงมักๆ

หลังทานอาหารเย็นเสร็จ เท็นเท็นดิ้นแรงมาก เหมือนกับควงสว่าน กลับตัวใต้น้ำ จนก้อยปวดบริเวณขา น้ำตาซึม

วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เป็นหวัด

ก้อยเป็นหวัด น้ำมูกไหล โทรไปหาคุณหมอตั้งแต่เช้า แต่คุณหมอไม่ว่าง กว่าจะได้คุยก็เที่ยงกว่า คุณหมอให้ทานยา Actifet และ Flemex (ลดเสมหะ)

ปวดท้องตอนดึก

หลังจากไม่ได้ปวดท้องมา 2 วัน ตอนดึกวันที่ 1 ก้อยมีอาการปวดท้อง แต่ตอนกลางวันก็ไม่ปวด
เมื่อวานเท็นเท็นไม่ค่อยดิ้น แต่วันนี้เท็นเท็นกลับมาดิ้นบ่อยขึ้นเหมือนเดิม

วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

เริ่มมีอาการปวดท้อง

ตอนกลางคืนมีอาการปวดท้อง ต่อเนื่องมาถึงเช้าแล้วก็หาย
มีนัดพบคุณหมอตรวจครรภ์ คุณหมอตรวจแล้วก็ไม่ว่าอะไร บอกว่าถ้าปวดบ่อยๆและมีน้ำเดินจึงจะคลอดจริง ตอนนี้กำหนดคลอดเลยเป็นที่ 38 สัปดาห์ วันที่ 10/10 เหมือนเดิม

วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

ปวดท้องตอนตื่นนอน

ตื่นมาตอนเช้ามีอาการปวดท้องเล็กน้อย

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

ยาทานลดการบีบตัวของมดลูกหมด

วันนี้ยาทึ่คุณหมอให้มาทานเพื่อลดการบีบตัวของมดลูกหมดแล้ว บอกให้ก้อยพยายามอย่าเคลื่อนไหวมากนัก รอพบคุณหมอวันพฤหัสนี้

จับซาไท้เป้า ครั้งที่ 5

กินจับซาไท้เป้าครั้งสุดท้าย ครั้งนี้ก้อยไม่อยากขยับตัวเยอะ ผมเลยเป็นคนต้มให้

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

ชอบฟังเพลง

วันนี้หลังทานข้าวเช้า ปกติเท็นเท็นจะต้องดิ้นดุกดิก แต่วันนี้ดิ้นน้อยกว่าปกติเยอะ ช่วงสายๆก็ยังไม่ค่อยดิ้น ตอนบ่ายก้อยเลยเปิดเพลง mozart ให้ฟัง เท็นเท็นก็ดิ้นตามเพลง

วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

ช่างทำรุนแรงเหลือเกิน

ไม่ใช่เพลงของวงไมโครนะ แต่เท็นเท็นถีบแรงมาก บางทีก็บิดขี้เกียจ บางทีก็เอาหัวโหม่ง
อาการทั่วไปวันนี้คือมีอาการตึงๆที่ท้องช่วงเช้า และเจ็บเนื่องจากเท็นเท็นดิ้นแรง

วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

ท้องแข็งลดลง

วันนี้ผมลาพักอยู่บ้าน เพื่อดูแลก้อยให้ไม่ต้องขยับตัวเยอะตามที่คุณหมอสั่ง ทานยาทุก 4 ชั่วโมง
ช่วงเช้ามืด ก้อยมีอาการปวดท้องครั้งเดียว อาการท้องแข็งยังมีบ้าง แต่ไม่บ่อย เท็นเท็นยังถีบแรงเหมือนเดิม

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

เท็นเท็นรอหน่อยนะ

ไปพบคุณหมอชุมพลล่วงหน้าจากที่นัดไว้วันที่ 29 กย. เนื่องจากมีอาการท้องแข็งบ่อย เตรียมชุดค้างไปด้วยถ้าจะต้องคลอดจะได้ไม่ต้องวิ่งไปมา
วัดขนาดหัวและช่วงตัวของเด็ก คำนวณออกมาได้น้ำหนักตัวประมาณ 2.7 กิโล มีโอกาสคลาดเคลื่อนนิดหน่อย คิดเป็น 2.5 กิโลอย่างน้อย ถือว่าน้ำหนักใช้ได้ สูงกว่าที่ควรจะเป็นสำหรับอายุครรภ์ 35 สัปดาห์
หลังจากคุณหมอตรวจแล้ว ได้ให้ไปพักเพื่อสังเกตอาการท้องแข็งที่ห้องรอคลอดชั้น 3
วิธีการคือ พยาบาลจะให้คอยกดปุ่มเพื่อนับจำนวนครั้งที่มีอาการท้องแข็ง ซึ่งผลออกมาว่ามีโอกาสที่จะคลอดก่อนสูง ท้องแข็งทุก 5 นาที แต่เนื่องจากอายุครรภ์ 35 สัปดาห์กว่า ยังไม่ครบ 36 สัปดาห์ คุณหมอเลยจะให้ยาช่วยลดอาการท้องแข็ง และให้ยาบำรุงเพื่อให้ปอดของเด็กทำงานให้ดีขึ้นด้วย เผื่อว่าถ้าจะต้องคลอดก่อน จะได้มีปัญหาน้อยที่สุด
ยาที่จะลดอาการท้องแข็งเป็นยาทาน ส่วนยาบำรุงเป็นยาฉีดที่ก้น (ตอนฉีดไม่เจ็บ แต่หลังจากฉีดไปแล้วจะเจ็บมาก) ต้องฉีก 2 เข็มภายใน 24 ชั่วโมง
หลังจากทานยาไปแล้ว ตรวจสอบอาการท้องแข็งอีกทีก็ยังไม่ดีขึ้น คุณหมอเลยเปลี่ยนมาใช้ยาฉีดแทน และให้ค้างที่รพ.เพื่อคอยดูอาการ เพราะยาตัวนี้จะทำให้ใจสั่นด้วย
ยาฉีดตัวนี้ต้องฉีดทุกๆ 4 ชั่วโมง เริ่มฉีดเข็มแรกตอน 10 โมงเช้า โดยฉึกไปที่ต้นแขน 2 ข้างสลับกันไปมา
เข็มแรกผ่านไป ไม่เจ็บ อาการท้องแข็งนานขึ้น ทิ้งช่วงห่างเป็น 8 นาที
เข็มต่อๆมา อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหาคือการฉึกยาลงไปตรงต้นแขนซ้ำๆกันทำให้เจ็บมาก เข็มสุดท้าย คือเข็มที่ 6 ถึงกับน้ำตาซึมเลย แต่ผลออกมาก็ดีขึ้นมาก แทบจะไม่มีอาการท้องแข็งเลย คุณหมอเลยจัดยาชนิดเดียวกันกับยาฉีดแต่เป็นยาเม็ด ให้มาทานเองที่บ้านทุก 4 ชั่วโมงเหมือนเดิม ถ้าไม่มีปัญหาอะไร นัดให้มาตรวจอีกทีวันที่ 30 นี้

วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

โทรไปรพ.

ก้อยโทรไปรพ.เพื่อจะคุยกับคุณหมอ
ตอนแรกโทรไปแผนกสูติฯ พยาบาลไม่ให้คุยกับคุณหมอ และไม่ให้ข้อมูลอะไรทั้งสิ้น บอกว่าให้มาพบคุณหมอวันรุ่งขึ้น
เลยโทรไปห้องคลอด พยาบาลบอกว่าอาการนี้คืออาการจะคลอด (ไม่ใช่เจ็บเตือน) ก้อยตกใจ และว่าจะเข้าไปหาคุณหมอวันพรุ่งนี้

ปวดท้องตอนตี 4 กว่า

เมื่อคืนต้องตี 4 กว่าๆ มีอาการปวดท้องบริเวณหัวหน่าวและเท็นเท็นดิ้นมากด้วย เลยไม่แน่ใจว่าปวดเพราะเท็นเท็นดิ้นมากหรือเปล่า

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

รายงานวันนี้

วันนี้ไม่มีอาการปวดท้อง แต่จะท้องมวนบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาเดินไปเดินมานานๆ ต้องนั่งพักอย่างเดียว

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

ปวดท้อง 2 ครั้ง

วันนี้รู้สึกปวดท้อง (เหมือนจะมีประจำเดือน) 2 ครั้ง น้อยลงกว่าเมื่อวาน
เวลาลุกเดินไปไหน จะรู้สึกมวนท้อง (ศัพท์ หมายถึงรู้สึกมวนๆที่ท้อง) ตลอด ต้องนั่งพักบ่อยๆ

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

ปวดท้องอีกแล้ว

ปวดท้องหลายครั้งตลอดทั้งวัน ปวดคล้ายๆปวดประจำเดือน นอนไม่หลับทั้งคืน กลัวว่าจะคลอด

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

ท้องแข็ง 5 ครั้ง

วันนี้ท้องแข็ง 5 ครั้ง ขยับตัวไม่ค่อยได้ ขยับทีไร ท้องจะแข็ง เลยต้องนั่งนิ่งๆ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

ท้องแข็งและปวดท้อง

วันนี้ก้อยรู้สึกปวดท้อง 2-3 ครั้ง แต่ไม่แน่ใจว่าปวดจากอะไร (ปวดจากมดลูกบีบตัวหรือเปล่า?) และท้องแข็งบ่อยด้วย

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

เท็นเท็นดิ้นแรงมาก

ช่วงหัวค่ำหลังทานอาหารเย็นเสร็จ เท็นเท็นดิ้นแรงมาก เอาหัวโหม่งด้วย จนก้อยเจ็บไปหมด

ตรวจครรภ์สัปดาห์ที่ 34

วันนี้ไปพบคุณหมอชุมพล มีตรวจเบาหวานจากปัสสวะ ได้ผลออกมาปกติ
วัดการเต้นของหัวใจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ ได้ 130-135 ครั้งต่อนาที คุณหมอบอกว่าท้องแข็ง มีโอกาสคลอดก่อนกำหนด

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

อายุครรภ์ 33 สัปดาห์

ชั่งน้ำหนักได้ 63.5 กิโล เพิ่มจากเดือนที่แล้ว 3 กิโล วัดรอบเอวได้ 40 นิ้ว
ตอนกลางคืนของวันที่ 7 มีอาการปวดท้อง เหมือนเมนจะมา
ช่วงนี้เท็นเท็นจะตอดบ่อย (ศัพท์ใหม่ของก้อย)

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

ก้อยฝันถึงเท็นเท็น

วันนี้อากาศร้อน ก้อยเลยไปนอนในห้องนอนชั้นล่าง ฝันไปว่าเท็นเท็นเอามือดันออกมาจากท้อง มาจับมือก้อย
แอร์ไม่ได้ใช้มานาน มีกลิ่นอับนิดหน่อย ถ้าเปิดบ่อยๆคงจะดีขึ้น

วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

ย้ายแอร์มาที่ห้องนอนชั้นล่าง

ย้ายแอร์จากบ้านที่เตาปูนมาที่ห้องนอนชั้นล่าง สำหรับไว้ให้ก้อยนอนพักหลังคลอดและสำหรับเท็นเท็นนอนด้วย

วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

อายุครรภ์ 32 สัปดาห์

ชั่งน้ำหนักได้ 62.5 กิโล และวัดรอบเอวได้ 40 นิ้ว เพิ่มขึ้นไม่มาก แต่สังเกตได้ว่าท้องแหลมอย่างเห็นได้ชัด โบราณบอกว่าท้องแหลมจะเป็นลูกชาย

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

จับซาไท้เป้า ครั้งที่ 4

ถึงเวลาของจับซาไท้เป้าอีกแล้ว

วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ไปเดินงาน Baby Best Buy ได้ 3 คุ้ม

ไปเดินงาน Baby Best Buy ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติฯ
คนมางานเยอะมาก หาที่จอดรถยาก ก้อยต้องใช้สิทธิของคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อได้ที่จอดรถพิเศษ
สมัครสมาชิก Baby Best Buy 100 บาท ได้ของแถมมาคือ แผ่นซับน้ำนม 3 ห่อ ผ้ากันเปื้อนเด็ก แป้ง Enfant และกระดาษส่วนลดที่ไม่ได้ใช้ :(
ไว้ครั้งหน้าถ้าเอาบัตรสมาชิกนี้ไปต่ออายุ (40 บาท) คงจะพอได้คืนทุนมาบ้าง
ตอนแรกเดินไปที่บูธของ Enfant ก่อน เกือบจะซื้อชุดเด็กแล้ว แต่พอเดินไปที่บูธอื่นๆ เจอที่ถูกกว่า เราซื้อ 3 ตัว 89 บาท (คุ้ม)
ซื้อเสื้อเด็กและกางเกงจากร้าน Papa ตัวละ 49 และ 59 บาท จะซื้อผ้าห่อตัวด้วยไว้ใช้ตอนพอเด็กกลับจากรพ. แต่แบบไม่ถูกใจ เลยว่าจะใช้ผ้าห่มแทน (คุ้ม)
ซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเช่นสำลี Baby wipe จากร้าน Pigeon
ตอนท้ายไปดูงาน CE Mart (ขายเครื่องไฟฟ้า) ได้น้ำผลไม้ทิปโก้ 2 กล่อง 100 บาท (คุ้ม)

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทำเอาตกใจหมด

หลังทานข้าวมื้อเย็น ปกติเท็นเท็นจะดิ้นดุกดิก แต่วันนี้กลับเงียบ ก้อยพยายามลูบ สะกิด พูด ยังไงเท็นเท็นก็ไม่ดิ้นเลย นิ่งสนิท ก้อยกลัวมาก จนขึ้นมาดูทีวีข้างบนและเปิดเพลงให้ฟัง เท็นเท็นจึงเริ่มดิ้นดุกดิกเหมือนเดิม

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อายุครรภ์ 31 สัปดาห์

อายุครรภ์ได้ 31 สัปดาห์ ไปพบคุณหมอชุมพลเพื่อตรวจ
ตรวจระดับน้ำตาลจากปัสสะวะได้ค่า 130 ถือว่าปกติ
วัดการเต้นของหัวใจเด็กได้ 135 ครั้ง คุณหมอบอกว่าหัวเด็กลง แต่ไม่มีปัญหาอะไร
ปรึกษากับคุณหมอเรื่องการจองห้องคลอด เนื่องจากกำหนดคลอดเป็น 10 ตุลา กลัวว่าคนจะเยอะ คุณหมอบอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะว่ารพ.มีห้องมากพอ และให้คนคลอดได้สิทธิก่อน เอาไว้ใกล้ๆวันคลอดค่อยจองก็ได้

อบรมครรภ์คุณภาพ 2

วันนี้มีอบรมครรภ์คุณภาพครั้งที่ 2 จัดที่รพ.วิภาวดี
เนื้อหาในวันนี้จะเกี่ยวกับกับการเตรียมก่อนไปคลอด ขั้นตอนการทำคลอด และเดิมหัวข้อสุดท้ายจะเกี่ยวกับการอาบน้ำเด็ก แต่ว่าได้เปลี่ยนไม่ได้สอน แต่จะตอบคำถามที่คุณแม่ถามแทน เพราะว่าในช่วงคลอดที่รพ. จะมีการสอนการอาบน้ำให้อยู่แล้วในทุกวันตอน 5 โมงเย็น
วันนี้ได้คุยกับพยาบาลใกล้ชิดและได้สอบถามถึงอาการท้องแข็ง พยาบาลบอกว่าถ้าท้องแข็งจะคลอด ต้องแข็งทั่วทั้งท้องเลย ไม่ใช่แข็งเป็นบางส่วน ทำให้ก้อยสบายใจขึ้นมาก
หลังอบรมเสร็จ ประมาณ 11 โมงครึ่ง พอมีเวลา เลยไปพบคุณหมอชุมพลต่อเลย (เดิมนัดไว้วันพุธที่ 25)
ขึ้นไปดูสถานที่ดูแลเด็กหลังคลอดที่ชั้น 5 อาคาร 1 มีเด็กอยู่ประมาณ 10 คน นอนนิ่งๆอยู่ น่ารักทุกคน

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

น้ำหนักเกือบ 62 กิโลแล้ว

ชั่งน้ำหนักได้ 61.5 กิโล เพิ่มจากเมื่อเดือนก่อน 2 กิโลกว่า เพิ่มเกินมาตรฐานไปนิดหน่อย
วัดรอบเอวได้ 39.5 นิ้ว
ช่วงนี้เท็นเท็นดิ้นไม่บ่อย แต่ว่าดิ้นแต่ละครั้งจะแรง บางครั้งท้องเบี้ยวหรือเห็นเป็นท่อนคล้ายมือหรือขา

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โดนถีบซีกโครง

วันนี้เท็นเท็นโดดถีบซึกโครงของก้อย แถมด้วยการรัวหมัด(หรือเท้าก็ไม่รู้)เข้าที่ท้อง คึกเหลือเกิน

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วนเวียนแถวสะดือ

วันนี้เท็นเท็นพลิกตัวไปมาแถวๆสะดือ เวลาพลิกทีก้อยก็จะรู้สึกเสียวๆ
มีอยู่ช่วงนึงสัมผัสได้ว่าเป็นแขนเท็นเท็น อยู่บริเวณเหนือสะดือ
ช่วงนี้เท็นเท็นดิ้นไม่บ่อยเหมือนก่อน แต่เวลาดิ้นจะแรงขึ้น

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อายุครรภ์ 29 สัปดาห์

อายุครรภ์ได้ 29 สัปดาห์แล้ว น้ำหนัก 60.5 กก.
วันนี้ท้องไม่ค่อยแข็งเท่าไร ลูกดิ้นน้อยลง แต่อ่านจากในหนังสือบอกว่า อายุครรภ์เท่านี้ลูกตัวใหญ่ขึ้นเลยมีพื้นที่ในการขยับตัวน้อยลง

วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วัดรอบเอวได้ 40 นิ้วแล้ว

ตอนนี้เอว 40 นิ้วแล้ว ลูกดิ้นบ่อยมาก เวลานอนต้องเอาผ้ามารอง ไม่ให้ไปกดทับตัวเด็ก

วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ท้องแข็งบ่อย

ท้องก้อยมักจะแข็งบ่อยๆ คุณหมอบอกว่าไม่ค่อยดี เพราะอาจจะทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ เลยพยายามไม่ทำงาน พักผ่อนให้เยอะขึ้น

จับซาไท้เป้า ครั้งที่ 3

วันนี้ตื่นมาต้มจับซาไท้เป้าครั้งที่ 3 เริ่มดื่มได้ง่ายขึ้น

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ตรวจครรภ์สัปดาห์ที่ 27

คุณหมอชุมพลนัดตรวจครรภ์
ก่อนพบคุณหมอ จะตรวจเบาหวานก่อน โดยให้ดื่มกลูโคส 1 แก้ว (ใส่น้ำแข็งด้วย) ก้อยบอกว่ารสชาดเหมือนน้ำมะนาว อร่อยดี หลังจากดื่มเสร็จต้องรอประมาณ 1 ชม. จึงจะเจาะเลือดไปตรวจได้
วัดการเต้นของหัวใจได้ 145 ครั้ง
ตรวจอัลตราซาวนด์ วัดขนาดหัวเด็กเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 ซม. ประมาณน้ำหนักได้กิโลกว่าๆ
มองเห็นอวัยวะต่างๆชัดเจน เช่น มือ แขน ขา นิ้ว ตา จู๋เล็ก กระดูกสันหลัง
ระหว่างตรวจลูกดิ้นบ่อยมาก จนสังเกตุได้ชัด
คุณหมอบอกว่าก้อยท้องแข็งด้วย อาจจะทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ กำหนดคลอด 24 ตค. อาจจะก่อนได้ถึง 3 สัปดาห์

ผลการตรวจเบาหวาน พยาบาลโทรมาตอนบ่าย ได้ 130 (ต้องไม่เกิน 140)

วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ไม่อ้วนเอาเท่าไร

อายุครรภ์ 26 สัปดาห์ วัดรอบเอวได้ 39 นิ้ว น้ำหนักก็ลงด้วย 9 เหมือนกันคือ 59 กก.

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันนี้ตื่นแต่เช้า

วันนี้ก้อยตื่นนอนแต่เช้า เพราะว่าลูกดิ้นกวนตั้งแต่ตอนตี 3 จนนอนไม่หลับ :)

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อายุครรภ์ 25 สัปดาห์

อายุครรภ์ได้ 25 สัปดาห์ น้ำหนักขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนนี้ 59 กิโลแล้ว ลูกดิ้นสม่ำเสมอเป็นเวลาดี

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กั้นห้องเตรียมให้ลูก


ให้ช่างมาทำตู้โชว์กั้นเป็นห้องที่ห้องรับแขก เพื่อเตรียมติดแอร์

วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ตกใจหมด

วันนี้ก้อยตื่นสาย หลังจากทำธุระในห้องน้ำเสร็จ ก็สังเกตุว่าลูกไม่ดิ้นเลย รอจนทานข้าวเช้าเสร็จ ลูกก็ยังไม่ดิ้น ก้อยใจเสีย กลัวมากจนน้ำตาไหล กลัวว่าสายสะดืออาจจะไปพันคอเด็ก แต่ผ่านไปอีกสักพักนึง ลูกก็ดิ้นปกติเหมือนเดิม สงสัยวันนี้ลูกจะตื่นสายเหมือนแม่

วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จับซาไท้เป้า ครั้งที่ 2

วันนี้ครบกำหนดต้องกินจับซาไท้เป้าอีกครั้ง ก้อยบอกว่าขมมากเหมือนเดิม

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ของฝากจากป้าแก้ม

วันนี้แก้มเอาของใช้สำหรับเด็กมาให้ก้อยหลายอย่าง
  • เตียงนอน+โมบาย
  • รถเข็นเด็ก
  • ชุดเด็กอ่อนและเด็กเล็ก
  • ขวดนม

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อายุครรภ์ 22 สัปดาห์

วันนี้คุณหมอชุมพลนัดตรวจครรภ์ตอนเช้า ไปถึงโรงพยาบาลเกือบ 9 โมงเพราะรถติด ได้คิวตรวจเป็นคิวที่ 2
ชั่งน้ำหนักได้ 58.2 กิโลกรัม เกินจากที่ควรเป็นนิดหน่อย ครั้งนี้มีเอาปัสสาวะไปตรวจเบาหวานด้วย แต่เป็นการตรวจง่ายๆด้วยตัววันแบบจุ่ม ได้ผลปกติ ครั้งหน้าจะตรวจแบบให้ทานกลูโคส
คุณหมอใช้เครื่องวัดการเต้นของหัวใจเด็ก ได้ 145 ครั้ง/นาที

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ดิ้นสม่ำเสมอ

ลูกดิ้นค่อนข้างเป็นเวลา
  • ตอนเช้า 9 โมง
  • ตอนเที่ยง
  • บ่าย 2
  • 6 โมงเย็น
  • และ 3 ทุ่ม

วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อายุครรภ์ 20 สัปดาห์

ก้อยอายุครรภ์ได้ 20 สัปดาห์แล้ว น้ำหนัก 57 กิโล ลูกดิ้นบ่อยมากขึ้น

วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

นอนไม่ค่อยหลับ

ช่วงนี้ก้อยนอนไม่ค่อยหลับ เมื่อคืนก่อน เป็นตะคริว 2 ครั้ง ส่วนเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเพราะว่าเมื่อยขามาก

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ในที่สุดก็รู้ผล

ก่อนบ่าย ก้อยโทรไปที่รพ.อีกครั้งเพื่อจะขอสายคุณหมออาภรณ์ภิรมย์ แต่คุณหมอติดคนไข้อยู่ พยาบาลบอกว่าถ้ามีอะไรผิดปกติก็จะโทรมา ก้อยไม่ยอมจะให้พยาบาลโทรมาแจ้งผล
หลังจากวางสายไปได้สักพัก พยาบาลก็โทรมา บอกว่า "ผลตรวจน้ำคร่ำปกติ ได้ลูกชายค่ะ" ก้อยพูดอะไรไม่ออก น้ำตาเริ่มซืมๆ ตอบกับพยาบาลว่า "ขอบคุณค่ะ" แล้วก็วางสาย
หลังจากนั้นก้อยก็หันมาบอกกับผมพร้อมน้ำตาว่า ผลปกติ และได้ลูกชาย ผมต้องเอาผ้าเช็ดหน้า(ของผม) ให้ก้อยเช็ดน้ำตา เพราะก้อยปล่อยโฮออกมา
ก้อยโทรไปบอกกับที่บ้าน ทุกครั้งที่โทรไปก็จะปล่อยโฮตลอด

นางพยาบาลขี้หวง

ก้อยโทรไปที่รพ. ถามเรื่องผลการตรวจน้ำคร่ำ พยาบาลบอกว่าผลออกแล้ว แต่ว่าต้องรอให้คุณหมอเป็นผู้แจ้งผลให้ทราบ
พยายามพูดยังไง พยาบาลก็ไม่ยอมบอก :(

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

จับซาไท้เป้า ครั้งที่ 1

วันนี้ก้อยตื่นแต่เช้า เพื่อมาต้มจับซาไท้เป้ามาดื่ม
วิธีการต้ม ให้เอาตัวยาใส่ลงในหม้อดิน เติมน้ำ 3 ถ้วย ต้มจนเหลือ 1 ถ้วยแล้วดื่มก่อนทานอาหารเช้า 1 ชม.
ตอนเย็นให้เติมน้ำลงไปอีก 2 ถ้วยแล้วต้มจนเหลือค่อนถ้วยทานก่อนอาหารมื้อเย็น
รสชาติของน้ำจับซาไท้เป้า ก้อยบอกว่า "ขมมาก"

วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ท้องใหญ่ขึ้นเยอะ

อายุครรภ์ได้ 19 สัปดาห์แล้ว ท้องของก้อยใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม น้ำหนัก 55.6 กิโลกรัม
รู้สึกเหมือนกับลูกดิ้นบ่อยแต่ถ้าใช้มือจับที่ท้องยังรู้สึกได้ไม่ชัด (บางครั้งก็รับรู้ได้ บางครั้งก็ยังไม่ได้)

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลูกดิ้น

วันนี้หลังทานเสร็จ ก้อยบอกว่ารู้สึกว่าลูกดิ้น และเตะหน้าท้อง รู้สึกได้ค่อนข้างชัดเจน

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เมื่อคืนเป็นตะคริว

เมื่อคืน ก้อยเป็นตะคริวที่ขา ประมาณ 1 นาทีก็หาย
อาการปวดแขนจากการฉีดวัคซีนหายแล้ว
อายุครรภ์ 18 สัปดาห์ น้ำหนักชั่งตอนเช้า 55.4 กิโลกรัม ยังไม่รู้สึกว่าลูกดิ้น

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ยังเจ็บแขนข้างที่ฉีดวัคซีน

ก้อยยังมีอาการเจ็บแขนจากการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักอยู่ ยกแขนไม่ค่อยขึ้น
วันนี้ลูกไม่ดิ้นเหมือนเมื่อวาน อาจจะเพราะเมื่อวานก้อยนอนหงายด้วย ทำให้ไปกดทับ ลูกเลยดิ้นจนรู้สึกได้ แต่วันนี้ก้อยนอนคะแคง

วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ก้อยโดนถีบ

วันนี้ก้อยรู้สึกตุบๆที่หน้าท้อง สงสัยลูกจะแตะทักทายแม่

เจาะน้ำคร่ำ

ตอนเช้าพบคุณหมอชุมพลที่รพ.วิภาวดี เพื่อตรวจครรภ์ คุณหมอใช้เครื่องวัดเสียงหัวใจเด็ก ได้ 150 ครั้งต่อนาที
หลังจากนั้นฉีดยากันบาดทะยักเข็มที่สอง ครั้งนี้ก้อยบอกว่าเจ็บมากๆ ไม่เหมือนครั้งก่อนที่พยาบาลฉีดแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย
ทานข้าวเที่ยงที่รพ. แล้วรอคุณหมออาภรณ์ภิรมย์ตอนบ่าย 2 เพือตรวจน้ำคร่ำ
ก่อนตรวจคุณหมอจะอธิบายประโยชน์ที่ได้ ข้อดีข้อเสีย เพื่อให้ตัดสินใจก่อนว่าจะตรวจหรือเปล่า อธิบายประมาณครึ่งชั่วโมง การตรวจใช้เวลา 15 นาที
ตอนแรกคุณหมอจะเอาเบทาดีนทาทั่วหน้าท้องเพื่อฆ่าเชื้อโรค ทาเจลเและอัลตราซาวนด์เด็กก่อนที่จะเจาะ จะได้ไม่โดนตัวเด็ก คุณหมอบอกว่าเห็นอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์ดี แต่ยังมองไม่เห็นเพศนะ
ลูกนอนพึ่งพุงเอามือก่ายหน้าผาก ไม่รู้กลุ้มใจเรื่องอะไร จากนั้นคุณหมอจะเอาผ้ามาคลุมท้อง เอาหลอดพลาสติกมากดที่หน้าท้องเพื่อมาร์คตำแหน่งที่จะเจาะ จากนั้นก้อยก็บอกกับคุณหมอว่าจะขอหลับตานะ เพราะเสียว จากนั้นคุณหมอก็เริ่มเจาะ เจ็บเหมือนฉีดยา ช่วงดูดน้ำคร่ำจะรู้สึกเสียวหน้าท้อง ดูดไป 2 หลอด รวม 20 ซีซี เป็นอันเสร็จ ใช้เวลาเจาะและดูดประมาณ 1 นาที
การตรวจใช้เวลา 2-3 อาทิตย์ คุณหมอชุมพลนัดครั้งหน้ามาตรวจก็จะทราบผลพอดี

วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ปวดที่ข้อเท้า

เมื่อคืนก่อนนอน ก้อยบอกว่าปวดที่ข้อเท้า ต้องเอา counterpain มาทา
ตื่นมาตอนเข้า ยังปวดอีกนิดหน่อย สอบถามไปมา อาจจะเกิดจากเมื่อวานมีการบริหารข้อเท้าตามที่อ่านในหนังสือ แล้วอาจจะทำมากไปหน่อยเลยมีอาการปวด

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

อบรม

อบรมเกี่ยวกับการดูแลครรภ์ที่รพ.วิภาวดี
ตอนนี้น้ำหนักของก้อย 54.3 กิโล เห็นท้องโตค่อนข้างชัดเจน แม้ในตอนใส่เสื้อ

วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เลื่อนนัดตรวจที่รพ.วิภาวดี

พยาบาลที่รพ.วิภาวดี โทรมาขอเลื่อนวันที่จะเจาะน้ำคร่ำ เพราะว่าคุณหมอที่จะเจาะต้องไปเมืองนอก เลยจะเลื่อนเข้ามาเป็นวันที่ 18 พค. แทน จะพบคุณหมอชุมพลเพื่อตรวจก่อนว่าสามารถเจาะได้มั้ย ถ้าได้ก็เจาะวันนั้นเลย

ถ่ายเป็นน้ำบ่อย

2-3 วันมานี้ ก้อยมักจะถ่ายเป็นน้ำ(คล้ายท้องเสีย)บ่อยๆ และบางครั้งก็มีอาการไม่อยากทานอาหาร

วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เป็นตะคริว

เมื่อคืนก้อยเป็นตะคริวอีก คาดว่าน่าจะเกิดจากไปเดินช้อปปิ้งกับพี่สาวที่ Central ลาดพร้าวนานไปหน่อย

วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ 3 วัน

วันนี้ก้อยอายุครรภ์ได้ 14 สัปดาห์ 3 วัน น้ำหนัก 54.6 กิโลกรัม
เมื่อคืนก้อยบอกว่านอนๆอยู่ ขาเป็นตะคริว ปวดมาก แต่สักพักก็หาย

วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553

อาการปวดแขนดีขึ้น

อาการปวดแขนจากการฉีดวัคซีนดีขึ้นมาก
วันนี้อากาศร้อนมาก และพอดีมีบ.มาฉีดยาป้องกันปลวกและแมลงที่บ้าน ก้อยเลยไปพักตากแอร์ที่แฟชั่นฯ

วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

ปวดแขนที่ฉีดวัคซีน

ก้อยปวดแขนข้างที่ฉีดวัคซีน ยกแขนไม่ค่อยขึ้นด้วย

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553

ฝากครรภ์ที่รพ.วิภาวดี

ตกลงตัดสินใจไปฝากครรภ์ที่รพ.วิภาวดีกับคุณหมอชุมพล
ก้อยให้แก้มช่วยสอบถามกับเพื่อนๆหมอแล้ว เค้าแนะนำคุณหมอท่านนี้ และก็ลองค้นใน net ก็มี feedback ดี
คุณหมอคนไข้เยอะ ไปรอตรวจประมาณ 1.5 ชม. ครั้งนี้คุณหมอได้อัลตราซาวนด์เห็นตัวลูกยาว 7 ซม. เห็นหัวและลำตัวชัดเจน มองเห็นมือและขาด้วย แต่ยังไม่สามารถบอกเพศได้
ก่อนกลับได้ฉีดวัคซีนกันบาดทะยักเข็มที่ 1 พยาบาลบอกว่าอาจจะรู้สึกปวดที่แขนหลังฉีด

รูปนี้เห็นหัวและลำตัวชัดเจน เห็นขาเล็กๆทางซ้ายด้วย

รูปนี้บอกว่าตัวลูกยาว 7 ซม.
มองจากมุมล่าง/บน เห็นเท้าและหัว

วันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2553

ไปดูที่ฝากครรภ์รพ.เปาโลนวมินทร์

วันนี้ไปดูสถานที่ฝากครรภ์รพ.เปาโลนวมินทร์ (ศรีสยามเดิม)
ที่นี่มีคุณหมประจำออยู่ 3 ท่าน เป็นคุณหมอเก่าจากศรีสยาม 1 ท่าน อายุเยอะแล้ว ส่วนอีก 2 ท่านอายุยังไม่เยอะ สถานที่เทียบกับที่วิภาวดี ที่เปาโลจะใกล้บ้านมากกว่า ที่จอดรถก็สะดวก ห้องตรวจก็กว้างขวางกว่า โปรแกรมคลอดของที่นี่ถูกกว่า 4,000 บาท และยังแถมอะไรหลายๆอย่างสำหรับคุณแม่และคุณลูกด้วย ซึ่งที่วิภาวดีจะไม่มีอะไรแถมเลย
แต่คุณหมอของที่นี่ไม่ค่อยดังเท่าไร (ค้นใน net ไม่เจอ) และเป็นคุณหมอค่อนข้างใหม่ด้วย

วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

กินจุ

ก้อยทานเก่งขึ้นทุกวัน กินจุกกินจิก ไม่มีอาการพะอืดพะอมแล้ว น้ำหนักยังขึ้นไม่เยอะนัก ชั่งตอนเข้าหลังตื่นนอน 53.7 kg.
วันนี้เริ่มเอาชุดคลุมท้องของแก้มมาใส่

หารพ.ฝากครรภ์

วันนี้ไปที่รพ.วิภาวดี ดูสถานที่สำหรับเตรียมฝากครรภ์ ตอนนี้เล็งไว้ 2 ที่คือที่รพ.วิภาวดีกับรพ.เปาโลนวมินทร์ ตอนแรกมีรพ.พระรามเก้าด้วย แต่ดูแล้วไกลไปหน่อยและรถน่าจะติดกว่า
แผนกสูติที่รพ.วิภาวดีอยู่ที่ชั้น 2 ถัดจากแผนกตา พท.ของแผนกไม่เยอะมากนัก พบกับพยาบาล ขอข้อมูล package การคลอดเอามาพิจารณา ที่นี่มีอบรมสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ด้วย ทุกวันเสาร์ที่ 2 ของเดือน

วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553

อยู่ดีๆเมื่อคืนรู้สึกหนาวมาก

เมื่อคืนก้อยนอนอยู่ แล้วรู้สึกหนาวมากเหมือนจะมีไข้ ตัวสั่นด้วย
คื่นมาตอนเช้าหาย

วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2553

เริ่มกลับมาทานได้แล้ว

ก้อยเริ่มกลับมาทานอาหารได้ตามปกติ ไม่ค่อยมีอาการพะอืดพะอมเหมือนก่อน แต่ยังมีอาการเสียดท้องบ้าง ชั่งน้ำหนักได้ 54 กิโล เริ่มเห็นว่าท้องใหญ่ขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553

เสียดท้อง

ไม่ค่อยมีอาการพะอืดพะอมแล้ว ทานอาหารได้มากขึ้น แต่จะเสียดท้องบ้าง

วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

ไม่อยากทานอะไร

ก้อยมีอาการพะอืดพะอม ไม่ค่อยอยากทานอะไร

วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553

อายุครรภ์ 9 weeks 5 days


วันนี้ไปตรวจ Ultrasound อีกครั้ง อายุครรภ์ 9 weeks 5 days
เห็นตัวลูกยาว 2.85 cm เห็นแขนขาค่อนข้างชัดเจนแล้ว
หัวใจเต้น 171 ครั้ง/นาที คราวหน้าไปตรวจอีกครั้งก็จะได้ยินเสียงหัวใจเต้นด้วย:)

แอบอมยิ้มเล็กๆตอนที่คุณหมอกำลัง Ultrasound แล้วเห็นตัวลูกชัดเจน :):):)



รูป Ultrasound วัดอัตราการเต้นของหัวใจ

วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2553

ทานข้าวไม่ค่อยลง

2-3 วันนี้ ก้อยมีอาการเบื่ออาหาร ทานข้าวได้น้อยมาก บางทีมีอาการเสียดท้องมาก
อาหารที่ทานส่วนใหญ่ต้องมีรสจัดๆหน่อยจึงจะทานได้ ทำน้ำปลาหวานทานเอง

วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553

คลื่นไส้

ก้อยเริ่มมีอาการท้องปั่นป่วน คลื่นไส้เล็กน้อย

วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

เสียดท้อง

ตอนเย็น ก้อยมีอาการเสียดท้อง เลยไม่ค่อยกล้าทำอะไรมาก นอนเฉยๆ

วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553

ตรวจการเต้นของหัวใจ

วันนี้อายุครรภ์ 7 สัปดาห์ 3 วัน คุณหมอนัดเพื่อตรวจอัลตราซาวน์ตอนเช้า 8 โมง เลยต้องตื่นเช้ากว่าปกติคือตี 5 กว่าๆ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยจะหลับ เพราะกลัวตื่นไม่ทันและก็กังวลเรื่องการตรวจด้วย เพราะก้อยเองหลังๆก็ไม่ค่อยมีอาการแพ้ท้องอะไร
ออกจากบ้าน 6 โมงครึ่ง ขึ้นทางด่วน 3 เด้ง ไปถึง 7 โมงกว่าๆ ขึ้นไปรอพบคุณหมอที่คลินิก มีพยาบาลมาทำงานกันเกือบหมดแล้ว ชั่งน้ำหนัก ลดลงไปกว่าเดิมอีก
คุณหมอมาประมาณ 8 โมงกว่าๆ แล้วไปเก็บไข่ให้คนไข้คนอื่นก่อน แล้วจึงมาตรวจ เห็นตัวอ่อนขนาด 1.02 cm และหัวใจเต้นด้วย ก้อยดีใจมาก
คุณหมอบอกเวลาคลอดคือวันที่ 24 ตุลา ผ่าคลอดก็เลื่อนมาเร็วหน่อย เป็นวันที่ 10 ตุลา (10/10/2010)

วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2553

น้ำลายเปรี้ยว

ช่วงเย็นๆ ก้อยจะรู้สึกว่าน้ำลายจะเปรี้ยวๆ เป็นมา 2 วันแล้ว

ตื่นมาปวดท้อง

วันนี้ก้อยตื่นเช้ามาปวดท้อง กังวลใจ เลยไม่กล้าขยับตัวมาก

วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553

ปวดบริเวณเอวด้านขวา

ระหว่างกำลังทานข้าวมื้อเย็น ก้อยปวดบริเวณเอวด้านขวามากจนต้องหยุดทานข้าวไปพักนึง หลังจากนั้นก็มีอาการตุ๊บๆที่ท้องด้านซ้าย

วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553

Mozart Effect

download เพลงบรรเลง Mozart Effect สำหรับให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ฟัง มีหลายแผ่นสำหรับช่วงวัยต่างๆ ที่ download มามี 3 แผ่นคือ Music for mom, Music for children และ Music for baby (Nighty night)

วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อัลตราซาวน์ถุงไข่แดง

พบคุณหมอเพื่ออัลตราซาวน์ถุงไข่แดง ได้ขนาดประมาณ 1.37cm

















รูปขยายให้เห็นชัดๆครับ

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ตรวจฮอร์โมนซ้ำ

พบคุณหมอเพื่อตรวจระดับฮอร์โมนซ้ำอีกครั้ง ได้ 1,184 ถือว่าดีมาก

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ข่าวดี

ไปพบคุณหมอเพื่อตรวจระดับฮอร์โมนหลังจากใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์แล้วได้ 2 ขีด
หลังจากเจาะเลือดไปตรวจ ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ทราบผล ได้ระดับฮอร์โมน 214 ก้อยท้องแล้วครับ